การตกแต่งบ้านให้ดูแพงไม่ได้ขึ้นอยู่กับเฟอร์นิเจอร์ราคาแพงเพียงอย่างเดียว แต่โทนสีของงานบิ้วอินถือเป็นหัวใจสำคัญที่มีผลต่ออารมณ์ของบ้านมากที่สุด โทนสีที่ถูกต้องสามารถเปลี่ยนบรรยากาศจากธรรมดา ให้กลายเป็นพื้นที่ที่ดูอบอุ่น ละมุน และมีรสนิยมได้ทันที ในปัจจุบันงานตกแต่งภายในนิยมใช้โทนสีที่มีความเป็นกลาง (Neutral Tone) เพราะทำให้บ้านดูหรูแบบไม่พยายาม อยู่ได้นาน ไม่ตกเทรนด์ และที่สำคัญคือช่วยให้เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งทุกชิ้นเชื่อมกันอย่างกลมกลืน บทความนี้ Mela Deco จะพาคุณไปรู้จัก 3 โทนสีบิ้วอิน ที่นักออกแบบภายในเลือกใช้มากที่สุด คือ Soft White, Greige และ Warm Earth พร้อมบรรยายถึงเสน่ห์ วิธีใช้งาน และความรู้สึกที่สีแต่ละโทนสร้างขึ้นเพื่อให้ Mood & Tone ของบ้านออกมาสมบูรณ์ที่สุดค่ะ
1. โทนสี Soft White
Soft White คือสีขาวที่ไม่จัดจ้านเหมือน Pure White แต่มีความอบอุ่นนุ่มนวลของครีม น้ำนม และเบจเจืออยู่ ทำให้ดูละมุนตา ไม่แข็ง และไม่ดิบจนเกินไป เป็นโทนที่ให้ความรู้สึกสว่างแต่ไม่เย็น ซึ่งเป็นเหตุผลที่สถาปนิกและนักออกแบบเลือกใช้สีกลุ่มนี้สำหรับงานบิ้วอินมากขึ้นเรื่อย ๆ หากต้องการบ้านที่ดูโปร่ง สะอาด และสวยแพงแบบมินิมอล โทน Soft White คือคำตอบที่ใช้ได้กับทุกขนาดพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นคอนโดหรือบ้านเดี่ยวเสน่ห์ของ Soft White ที่ทำให้บ้านดูแพงขึ้น ช่วยให้ห้องดูกว้างและโปร่งทำให้แสงกระจายทั่วพื้นที่อย่างสวยงามให้ความรู้สึกอบอุ่น นุ่มลึก ไม่แข็งกระด้างเข้ากับวัสดุหลากหลาย ทั้งไม้ หิน กระจก และงานผ้าลินิน ทำให้ลายเส้นงานบิ้วอินดูเด่น มีมิติขึ้น ในงานของ Mela Deco โทน Soft White เป็นสีที่ลูกค้าเลือกมากที่สุดเมื่ออยากได้บ้านสไตล์โรงแรมมินิมอลหรือ Luxury Clean เพราะดึงตัวบ้านให้ดูแพงแบบละมุนทันทีโดยไม่ต้องใช้วัสดุราคาแรงมาก
พื้นที่ที่เหมาะกับโทนสี Soft White
1. ผนังบิ้วอินห้องนั่งเล่น ผนังทีวี ผนังหลังโซฟา หรือผนังเก็บของโทน Soft White ช่วยให้ห้องดูสว่างอย่างธรรมชาติ สามารถเพิ่มเส้นร่องหรือไฟซ่อนเพื่อให้มิติของผนังเด่นขึ้น
2. ห้องนอนที่ต้องการความสบาย Soft White ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย นุ่มนวล ไม่กระตุ้นสายตา เหมาะกับหัวเตียงและตู้เสื้อผ้าโทนอ่อนมาก ๆ
3. ชุดครัวหรือ Pantry ตู้บิ้วอิน Soft White ทำให้พื้นที่ครัวดูสะอาด หรู และเป็นระเบียบมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อจับคู่กับท็อปหินสีอ่อน
4. มุมทำงานหรือมุมอ่านหนังสือ สีนี้ช่วยเพิ่มความโปร่ง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัดแม้พื้นที่จะเล็ก
เคล็ดลับให้โทนสี Soft White ดูแพงขึ้น
1. ใช้ร่วมกับไฟ Warm White 2700-3000K
2. จับคู่กับลายหินอ่อนหรือหินทรายโทนอ่อน
3. เติมเส้นขอบอะลูมิเนียมสีทองด้านหรือ Champagne Gold
4. ใส่ texture จากผ้า ผิวด้าน หรือไม้สีอ่อน

2. โทนสี Greige
Greige คือสีที่เป็นการรวมตัวของสีเทากับสีเบจ ทำให้เกิดโทนที่สมดุลระหว่างความเย็นของเทาและความอบอุ่นของเบจ จึงให้ความรู้สึกที่พอดีที่สุด ไม่หม่น ไม่สว่าง ไม่หนัก และไม่ลอยจนเกินไป โทนสีนี้เป็นที่นิยมในงานออกแบบหรูสไตล์ Modern Luxury , Minimal Luxe และ Hotel Contemporary มาก เพราะให้ความรู้สึกแพงแบบสุขุม นิ่ง และเต็มไปด้วยความมีระดับ เสน่ห์ของ Greige ที่ทำให้บ้านดูแพงขึ้นทันทีให้ความนิ่งแบบผู้ใหญ่ เป็นกลาง แต่มีความลึก จึงไม่เรียบจนเกินไป เข้ากับวัสดุได้เกือบทุกแบบ ช่วยให้เส้นสายงานบิ้วอินดูคมและคอนทราสต์กำลังดี ถ่ายรูปออกมาสวยมากทุกแสง Mela Deco มั้งใช้โทน Greige ในห้องนั่งเล่นและห้องนอนระดับพรีเมียม เพราะให้ลุคคลีนแต่มีน้ำหนัก ดูแพงแบบไม่ต้องพยายาม และสามารถใช้งานได้ยาวโดยไม่ตกเทรนด์เลย
พื้นที่ที่เหมาะกับโทนสี Greige
1. ผนังบิ้วอินโทนโมเดิร์น ผนังทีวีหรือผนังเก็บของโทน Greige จะดูมีมิติมากขึ้นหากเพิ่มเส้นร่อง กรอบบัวเรียบ หรือไฟซ่อน LED เส้นบาง ๆ
2. ตู้เสื้อผ้าและพื้นที่ Walk-in Closet ให้ลุคแพงสุด ๆ แบบ Modern Boutique
3. ผนังหัวเตียง สีโทนนี้ช่วยให้ห้องนอนดูสุขุม อบอุ่น และผ่อนคลายแบบผู้ใหญ่ เหมาะกับการเพิ่มผ้า Panel หรือไม้ลายบาง ๆ
4. ห้องน้ำหรือมุมแต่งตัว Greige เข้ากับหินทราโวทีน (Travertine) และกระเบื้องลายธรรมชาติ ทำให้ลุคออกมาเป็นสปาหรูทันที
เคล็ดลับให้โทนสี Greige ให้ดูแพงขึ้น
ผสมวัสดุไม้โทนกลางหรือเข้ม
1. ใช้เส้นเหล็กหรืออะลูมิเนียมสีทองแดง/ดำด้าน
2. เพิ่มผ้าม่านลินินสีเบจเทา
3. ใช้พื้นโทนน้ำตาลอมเทาเพื่อความเนียนตา

3. โทนสี Warm Earth
Warm Earth คือกลุ่มสีธรรมชาติที่ได้แรงบันดาลใจจากดิน หิน แร่ ไม้ และผิววัสดุจากธรรมชาติ เป็นโทนที่ให้ความอบอุ่นลึกซึ้ง เช่น น้ำตาลอ่อน น้ำตาลอมส้ม เบจเข้ม และงานไม้สีน้ำผึ้ง-วอลนัต เป็นโทนที่ได้รับความนิยมมากในงานสไตล์ Natural Modern, Organic Modern และ Japanese Minimalist เพราะให้ความอบอุ่นที่มีความลึก และสร้างบรรยากาศผ่อนคลายเหมือนอยู่รีสอร์ต เสน่ห์ของ Warm Earth ที่ทำให้บ้านดูแพงขึ้นทันที ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบเป็นธรรมชาติ ทำให้ผิววัสดุไม้โดดเด่น ให้ Mood & Tone แบบ organic luxury อยู่ได้นาน ไม่ตกเทรนด์ ผ่อนคลายสายตามาก เหมาะกับพื้นที่พักผ่อน โทนนี้ทำให้บ้านดูแพงด้วยความธรรมชาติ ไม่ใช่ความจัดจ้าน เป็นความแพงแบบนุ่มลึกที่หลายบ้านชอบมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องการความผ่อนคลายเหมือนอยู่รีทรีตหรูกลางป่า
พื้นที่ที่เหมาะกับโทนสี Greige
1. ห้องนั่งเล่นสไตล์ Natural Modern ผนังไม้หรือบิ้วอินโทน Earth Tone ช่วยให้บ้านดูอบอุ่นหรูแบบรีสอร์ต โดยไม่ต้องใช้วัสดุราคาแพงมาก
2. ห้องนอนที่อยากได้ฟีลพักผ่อนลึก ๆ ใช้ไม้โทนอ่อนถึงกลาง ผสมผ้าลินินสีธรรมชาติ จะให้อารมณ์นอนหลับสบายมาก
3. มุมคาเฟ่หรือมุมอ่านหนังสือในบ้าน Earth Tone ช่วยให้พื้นที่รู้สึก soft focus ลดความฟุ้ง และเหมาะกับการทำงานสร้างสรรค์ด้วย
4. ผนังตกแต่ง/ผนังทีวี/ผนังหัวเตียง ลายเส้นของไม้และแสงไฟแบบ Warm White จะช่วยให้ผนังดูแพงขึ้นสองเท่า
เคล็ดลับให้โทนสี Warm Earth ให้ดูแพงขึ้น
1. เลือกไม้ที่มีลายธรรมชาติ เช่น ไม้โอ๊ค/วอลนัต
2. ใช้พรมลายทอธรรมชาติหรือ texture ผิวหยาบ
3. เลือกไฟ 2700K-3000K เพื่อขับโทนไม้ให้สวย
4. เติมของตกแต่งเซรามิก สีเบจ ครีม และน้ำตาลอ่อน
สรุป
เพราะทั้งสามโทนนี้อยู่ในกลุ่ม Neutral ที่ ให้ความหรูแบบละมุน อยู่ได้นาน และเป็นธรรมชาติ เป็นโทนที่ทำให้บ้านดูสวยแพงโดยไม่ต้องมีของตกแต่งเยอะ และเป็นโทนที่นักออกแบบทั่วโลกนิยมใช้ในงานระดับโรงแรมและเรสซิเดนซ์หรู โทนสี Soft White ให้ความสะอาด โปร่ง และหรูแบบมินิมอล , โทนสี Greige ให้ความสุขุม ละมุน และแพงแบบผู้ดี , โทนสี Warm Earth ให้ความอบอุ่นลึกซึ้งแบบ organic luxury การเลือกโทนสีบิ้วอินให้ถูก ช่วยยกระดับบ้านได้มากกว่าที่คิด และถ้าต้องการให้ Mood & Tone ออกมาสวยเนียนที่สุด การออกแบบและเลือกวัสดุโดยทีมมืออาชีพจึงเป็นสิ่งสำคัญ
ทีมออกแบบ Mela Deco พร้อมช่วยออกแบบและแนะนำโทนสีที่เข้ากับบ้านของคุณได้อย่างลงตัว ตั้งแต่งาน Soft White คลีนหรู ไปจนถึง Greige โมเดิร์น และ Warm Earth แบบรีสอร์ต เพื่อให้บ้านของคุณสวยแพงขึ้นทันทีตั้งแต่เปิดประตูเข้าไปค่ะ หากสนใจสามารถดูคอลเลคชันของเราเพิ่มเติมได้ที่บทความ

