เข้าช่วงหน้าฝนมาได้สักพักใหญ่ คนรักบ้านหลายคนอาจจะต้องหัวเสียกับปัญหาที่มากับหน้าฝนไม่รู้จักจบจักสิ้น ทั้งเรื่องรอยรั่วซึม เฟอร์นิเจอร์ชำรุด หรือแม้แต่คาบตะไคร่จับ จนขัดไม่ออก เป็นต้น ซึ่งถ้าเราละเลยปัญหาเหล่านี้ไปเรื่อยๆ “ความโทรม” ถามหาแน่นอน
นอกจากจะต้องเก็บเงินก้อนเพื่อซื้อบ้านแห่งความภาคภูมิใจแล้ว ขั้นต่อไป เราก็ต้องรักษาให้บ้านดูดีดูใหม่อยู่เสมอ อย่างน้อยๆ เวลาแขกไปใครมาจะได้ไม่เขินอายในความโทรมของบ้าน ยิ่งหน้าฝนอย่างนี้แล้ว เพียงแค่ปัดกวาดเช็ดถูภายในบ้านก็คงไม่เพียงพอ เพราะถ้าบ้านต้องเจอทั้งฝนตก แดดออก พายุเข้าแบบนี้ ซึ่งแน่นอนว่าวันนี้เรามีวิธีดูแลบ้านไม่ให้โทรมในช่วงหน้าฝนมาฝากกันด้วยค่ะ
เรื่องง่ายๆ ที่หนุ่มสาวยุคใหม่ชอบมองข้าม อันที่จริงแล้วถ้าเข้าช่วงหน้าฝนแบบนี้ การตรวจดูรอยรั่วซึม แตกร้าวภายในบ้านนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนควรจะทำ ไม่ว่าจะเป็นหลังคา ฝ้า ผนัง และรอยต่อของวัสดุต่างๆ เมื่อพบปัญหาเหล่านี้ ควรรีบแจ้งช่างผู้เชี่ยวชาญมาดูโดยด่วน เพราะถ้าปล่อยไว้ ปัญหาใหญ่ตามมาแน่นอน
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ คนรักบ้านทั้งหลายต้องตรวจเช็คประตูและหน้าต่างภายในบ้านทุกบาน ว่าปิดสนิทแล้วหรือยัง? เพื่อให้มั่นใจได้ว่าน้ำฝนจะไม่สาดเข้ามา และเมื่อฝนหยุดตกแล้ว เราควรเช็ดน้ำที่เจิ่งนองให้แห้ง รวมไปถึงพื้นด้านนอกบ้าน ยิ่งต้องขยันขัด เพราะคราบดินทั้งหลายอาจจะทำให้พื้นบ้านด้านนอกไม่น่ามอง ยิ่งปล่อยเอาไว้ให้น้ำท่วมขัง จนตะไคร่จับ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ง่าย ถ้าปล่อยไว้นานคราบเหล่านี้จะยิ่งติดแน่น ขัดออกยากไปอีก
เมื่อเข้าหน้าฝน เราจะพบว่าบริเวณรอบบ้านจะเต็มไปด้วยดินทรายและใบไม้ร่วงเกลื่อนกลาด งานบ้านงอกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ดังนั้น เราควรตัดกิ่งไม้ออกเสียบ้าง เพราะนอกจากจะทำให้บ้านดูโล่งขึ้นแล้ว ยังลดโอกาสกิ่งไม้ ต้นไม้หักโค่น จนเกิดความเสียหายได้อีกด้วย
ฤดูนี้ ทั้งลม ทั้งฝน มักจะหอบใบไม้ กิ่งไม้ มากองรวมกัน ทำได้ขวางทางระบายน้ำ ซึ่งจุดนี้เอง อาจทำให้น้ำไหลย้อนเข้าบ้าน แน่นอนปัญหาอื่นตามมาอย่างแน่นอน วิธีป้องกันง่ายๆ ก็คือพยายามเคลียร์สิ่งกีดขวางทุกอย่างในรางน้ำฝนออกเท่านั้นเอง
นอกจากรางน้ำฝนที่ต้องเคลียร์แล้ว ท่อระบายก็เช่นกัน เพราะทั้งใบไม้ กิ่งไม้ เศษขยะ และสิ่งแปลกปลอมต่างๆ อาจทำให้ท่อน้ำตันได้ง่ายๆ ควรหมั่นทำความสะอาดสม่ำเสมอ
แม้เฟอร์นิเจอร์เอาท์ดอร์จะถูกออกแบบมาให้ทนน้ำ ทนแดด แต่ถ้าให้ตากฝนทุกครั้ง แน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ย่อมเสื่อมไปตามสภาพอยู่แล้ว ซึ่งวิธีป้องกันง่ายๆ ก็คือควรย้ายมาอยู่ในที่ร่มหรือไว้ที่มุมให้โดนฝนสาดน้อยที่สุด หรือหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็ควรหาผ้าใบมาคลุมไว้
ถ้าบ้านไหนที่ใช้สีทาบ้านคุณภาพดีอยู่แล้ว อาจจะข้ามข้อนี้ไปเลยก็ได้ แต่ถ้าบ้านไหนสีทาบ้านเริ่มหลุดร่อนหรือบ้านเก่าสีซีดแล้ว การทาสีบ้านใหม่ด้วยสีบางชนิดก็จะช่วยป้องกันผนังบ้านไม่ให้เก่าเร็ว ถ้าบ้านเก่า ยิ่งควรทาสีใหม่เพื่อป้องกันเชื้อราจากความชื้น โดยเฉพาะส่วนที่ทำจากไม้ต้องดูแลเป็นพิเศษ
ทั้งนี้ ถ้าเป็นไปได้ ในขั้นตอนของการเลือกซื้อบ้านใหม่ ก็ควรศึกษารายละเอียดวัสดุที่ใช้ทั้งภายในและภายนอกตัวบ้านอย่างละเอียด ซึ่งเราสามารถสอบถามข้อมูลจากตัวแทนจำหน่ายให้แน่ใจได้ จะได้สบายใจและไม่ต้องกังวลต่อสารพัดปัญหาที่มาพร้อมกับหน้าฝน
และถ้าเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังสนใจหาตัวช่วยในการออกแบบพื้นที่ในบ้าน ลองทักหา Mela Deco ได้เลยน๊า ทีมงานพร้อมให้บริการสุด ๆ เลยค่ะ
Website :: https://meladeco.com/
Official Instagram :: https://www.instagram.com/meladecoth/
Line Official :: @meladeco
Official Fanpage :: https://www.facebook.com/MelaDecoTH
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ คนรักบ้านทั้งหลายต้องตรวจเช็คประตูและหน้าต่างภายในบ้านทุกบาน ว่าปิดสนิทแล้วหรือยัง? เพื่อให้มั่นใจได้ว่าน้ำฝนจะไม่สาดเข้ามา และเมื่อฝนหยุดตกแล้ว เราควรเช็ดน้ำที่เจิ่งนองให้แห้ง รวมไปถึงพื้นด้านนอกบ้าน ยิ่งต้องขยันขัด เพราะคราบดินทั้งหลายอาจจะทำให้พื้นบ้านด้านนอกไม่น่ามอง ยิ่งปล่อยเอาไว้ให้น้ำท่วมขัง จนตะไคร่จับ อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มได้ง่าย ถ้าปล่อยไว้นานคราบเหล่านี้จะยิ่งติดแน่น ขัดออกยากไปอีก