7 ข้อควรรู้! ก่อนตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน

เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน (Built In) หรือเฟอร์นิเจอร์ที่ติดตั้งเข้ากับพื้นที่ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ กำลังเป็นที่นิยมของคนในสมัยปัจจุบัน เพราะช่วยออกแบบการจัดวางได้อย่างลงตัวและมีฟังก์ชันครบครัน ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ สามารถใช้งานพื้นที่ได้อย่างคุ้มค่า แต่ก่อนที่เราจะเลือกซื้อนั้น ลองมาศึกษาข้อที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินกันสักหน่อยเพื่อจะได้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ

1. ต้องเหมาะสมกับการใช้งาน

การเลือกเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินต้องมีความเหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละครอบครัว โดยเฉพาะที่พักอาศัยแบบคอนโดฯ ซึ่งมีพื้นที่จำกัด ทำให้ต้องการเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์กับพื้นที่ที่มีอยู่ให้มากที่สุด 

การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ของแบรนด์ที่มีชื่อเสียง โดยต้องใช้ชิ้นส่วนตามมาตรฐานโรงงาน มักจะไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้มากพอ หรือถ้าปรับให้มีความสูงตามขนาดของฝ้าเพดานได้ ก็ต้องแก้ไขโดยการตีกล่องไม้ปิด ทำให้เสียพื้นที่ใช้สอยด้านบนไปฟรี ๆ หรือแม้แต่การหลบขอบเสาบ้าน ก็จะไม่สามารถทำได้ เนื่องจากขาดความยืดหยุ่นในการออกแบบและผลิต

และจะดีกว่าไหม? ถ้าหากเราสามารถออกแบบและผลิตขนาดเฟอร์นิเจอร์ได้ตามความต้องการของเราแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้พอดีกับขนาดที่พักอาศัย และสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเต็มที่

2. มีความแข็งแรง ทนทานและวัสดุคุณภาพดี

วัสดุที่เลือกนำมาผลิตเป็นเฟอร์นิเจอร์สำเร็จรูปนั้น โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตมักเลือกใช้ไม้ปาติเคิลบอร์ดกรุผิวเมลามีน มาเป็นวัสดุหลัก ซึ่งไม้ปาติเคิลบอร์ดนั้นจะผลิตจากเศษไม้ยางพาราขนาดที่ไม่เท่ากัน ส่งผลให้เกิดช่องว่างระหว่างเศษไม้ ที่อาจจะทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม่ได้มาตรฐานตามที่ลูกค้าต้องการ


ดังนั้น เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่ดีควรเลือกใช้โครงไม้เนื้อแข็งกรุไม้อัด ซึ่งมีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทาน มีอายุการใช้งานนานถึง 20-30 ปี เพราะมีโครงสร้างเป็นไม้เนื้อแข็ง ประกอบกับไม้อัดยางคุณภาพดีเป็นส่วนของผนัง และปิดผิวด้วยลามิเนทหรือวีเนียร์ที่มีคุณภาพ คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน

3. ฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์การใช้งาน

แน่นอนว่าการเลือกเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนั้นต้องตอบโจทย์กับการใช้งานในชีวิตประจำวัน และเข้ากับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานด้วยเช่นกัน แต่นอกเหนือจากนั้นก็คือการใส่ใจในดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ ของผู้ผลิต เช่น ตู้เสื้อผ้าที่ไม่ได้ออกแบบมาเพียงแขวนเสื้อและกางเกงเท่านั้น แต่ยังมีฟังก์ชันสำหรับแขวนชุดยาว แขวนเข็มขัด เนคไท หรือเครื่องประดับ ไปจนถึงการออกแบบมาเพื่อจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ เช่น กระเป๋าเดินทาง เครื่องนอน กระเป๋าสะพายขนาดต่าง ๆ รองเท้า หรือแม้กระทั่งการจัดสรรพื้นที่เพื่อใช้วางตู้เซฟ หรือตู้เย็นขนาดเล็ก เป็นต้น

4.  อุปกรณ์ประกอบ (Fitting) ต้องใช้ของดีมีคุณภาพ

อุปกรณ์ประกอบ หรือ Fitting คืออุปกรณ์ที่ใช้สำหรับนำมาประกอบกับโครงสร้างของเฟอร์นิเจอร์ ตัวอย่างเช่น บานพับสำหรับบานตู้, รางเลื่อนสำหรับลิ้นชัก, รางเลื่อนสำหรับประตูบานเลื่อน, ราวแขวนผ้า, มือจับบานตู้ และปุ่มรับชั้นสำหรับชั้นวางของ ชิ้นส่วนพวกนี้เองก็มีส่วนช่วยในการยืดอายุการใช้งานเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจในการเลือก

โดยปัจจุบันอุปกรณ์ประกอบ (Fitting) นั้นมีให้เลือกมากมายหลายราคา การเลือกใช้อุปกรณ์ประกอบ (Fitting) จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงก็สามารถรับประกันคุณภาพได้ในระดับหนึ่ง แต่ในบางแบรนด์ก็ได้แบ่งเซกเม้นต์สินค้าด้วยราคาและคุณภาพที่แตกต่างกันไป จึงต้องใช้การพิจารณาความเหมาะสมของราคากับคุณภาพให้อย่างถี่ถ้วน

5.  ดีไซน์สวยงาม ใช้ได้จริง

ก่อนที่จะออกมาเป็นเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินที่ดีนั้น ทีม Interior และทีมช่างเฉพาะทางต้องร่วมมือกันในการออกแบบ และผลิตสินค้าออกมาให้ตอบโจทย์ได้มากที่สุด เพราะจะแค่ดีไซน์สวยงามอย่างเดียวไม่ได้ รูปทรงต้องได้สัดส่วนเข้ากับพื้นที่  ฟังก์ชันต้องตอบโจทย์และสามารถใช้งานได้จริง

ดังนั้นเราจึงควรเลือกบริษัทผู้ผลิตที่มีความยืดหยุ่น สามารถออกแบบได้ตรงตามความต้องการของเรา และที่สำคัญต้องมีความน่าเชื่อถือด้วย

6.  ติดตั้งรวดเร็ว มีความรับผิดชอบต่อสถานที่

การติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 แบบ
 
>> ติดตั้งแบบ Knock down

ผู้ผลิตส่วนใหญ่จะเลือกใช้การผลิตแบบขนาดมาตรฐาน แล้วนำมาประกอบแบบ Knock down
ข้อดี : สามารถติดตั้งได้เสร็จรวดเร็ว
ข้อเสีย : คุณภาพของวัสดุอาจจะไม่คงทน และไม่ยืดหยุ่นในพื้นที่ที่มีจำกัด

>> ติดตั้งโดยช่างไม้
ข้อดี : มีความยืดหยุ่นต่อสถานที่ สามารถแก้ไขได้ตามความต้องการของลูกค้า
ข้อเสีย : ใช้ระยะเวลาการติดตั้งนาน มีฝุ่นรบกวน แต่จะมากหรือน้อยนั้นขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของช่าง และหากเจอช่างไม่ดี อาจจะสร้างความเสียหายต่อสถานที่ได้

7.  มีการรับประกันผลงาน

นอกจากการเลือกทำเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญมาก ๆ ไม่แพ้กันเลย คือการเลือกบริษัทผู้ผลิตให้ดี เพราะผู้ผลิตควรมีความรับผิดชอบในทุกขั้นตอน ทั้งจากหน้างานและบริการหลังการขาย เช่น การรับประกันสินค้า เพื่อสร้างความไว้วางใจให้แก่ลูกค้า

สุดท้ายแล้ว การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินนั้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเลือกใช้พื้นที่ให้เหมาะสมกับการใช้งาน และตอบโจทย์กับการใช้งานได้มากที่สุด ถ้ามีคำตอบชัดเจนในใจแล้ว ก็สามารถติดต่อกับบริษัทผู้ผลิตอย่าง MELA DECO ที่มีทีมงานมืออาชีพ ทั้งออกแบบ ผลิตและติดตั้ง พร้อมเนรมิตบ้านใหม่ให้คุณได้เลยค่ะ ^^

More from Mela Deco

Earl Grey Veil ความสงบที่ซ่อนพลัง ผ่านโทนสีเทาอ่อน ครีม และน้ำตาลธรรมชาติ ผสานแสงทองละมุนอย่างประณีต เพื่อสร้างพื้นที่พักใจที่ทั้งละมุน ลุ่มลึก
Hojicha Reverence เสน่ห์ของความอบอุ่นผ่านโทนสีที่ผ่านการคั่ว พื้นผิวธรรมชาติ และจังหวะแสงที่ทำให้ทุกห้องกลายเป็นพื้นที่พักใจ เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
โทนสีของงานบิ้วอินส่งผลต่ออารมณ์เจ้าของบ้านอย่างไร? รู้จักจิตวิทยาของสีและวิธีเลือกโทนให้บ้านสวย น่าอยู่ และรู้สึกสบายใจทุกวัน
Rose Latte Serenity การออกแบบบิ้วอินที่ถ่ายทอดความหรูหราอย่างอ่อนโยน ผสานโทน Rosé Beige และแสงละมุน สะท้อนความสงบและอบอุ่นในทุกมุมของบ้าน
รู้ไหมว่าในการทำบิ้วอินบ้าน ไม่ได้มีแค่ช่างอย่างเดียว แต่ยังต้องมีอินทีเรียช่วยออกแบบด้วย! ทำความเข้าใจหน้าที่ของช่างบิ้วอินและอินทีเรียได้ที่นี่!
บิ้วอินช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ในบ้านอย่างไร? รู้จักผลทางจิตวิทยาของงานบิ้วอิน ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น