งานบิวท์อินกับการเลือกโทนสีและแสงไฟ ให้บ้านอบอุ่นและมีมิติ

งานบิวท์อินกับการเลือกโทนสีและแสงไฟ ให้บ้านอบอุ่นและมีมิติ

       บ้านที่อบอุ่นไม่ได้เกิดจากขนาดพื้นที่แต่เกิดจากความรู้สึกที่คุณสัมผัสได้ทุกครั้งที่กลับมา หนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสร้างบรรยากาศนั้น คือ งานบิวท์อิน (Built-in) ที่ผสมผสานการออกแบบ เฟอร์นิเจอร์ และแสงไฟให้เข้ากันอย่างลงตัว ทั้งยังสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้านได้อย่างดี บทความนี้ Mela Deco จะพาคุณไปดูว่างานบิวท์อิน โทนสี และแสงไฟ ว่ามีผลต่อความรู้สึกของพื้นที่อย่างไร พร้อมเคล็ดลับการเลือกให้บ้านของคุณทั้งอบอุ่นและมีมิติ เหมาะกับทุกการใช้งาน

งานบิวท์อินคืออะไรทำไมจึงช่วยให้บ้าน อบอุ่นมากขึ้น

       งานบิวท์อิน (Built-in) คือการออกแบบและผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่สร้างติดกับโครงสร้างของบ้าน เช่น ตู้เสื้อผ้า ชั้นวางทีวี ครัว หรือชั้นเก็บของ ซึ่งแตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์ลอยตัวตรงที่สามารถออกแบบเฉพาะพื้นที่ได้อย่างลงตัวและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สิ่งที่ทำให้งานบิวท์อินช่วยสร้างความอบอุ่นให้บ้านได้ คือความกลมกลืนของวัสดุ สี และแสงที่ถูกวางแผนไว้ตั้งแต่ต้น ทำให้บ้านดูเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีมุมเกินหรือส่วนเกะกะสายตา ซึ่งผลลัพธ์คือบรรยากาศที่น่าอยู่ งานบิวท์อินที่ดีไม่ใช่แค่สวย แต่ต้องรู้จักใช้แสงและสี เพื่อสื่ออารมณ์ของบ้าน

บิวท์อินกับการเลือกโทนสี

การเลือกโทนสี

         โทนสี คือ สิ่งแรกที่ผู้คนสัมผัสได้ทันทีเมื่อเข้าสู่พื้นที่ การเลือกสีในงานบิวท์อินจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะส่งผลต่อทั้งความรู้สึกและภาพรวมของบ้านอย่างชัดเจน

          1. โทนสีอบอุ่น (Warm Tone) เหมาะกับบ้านที่ต้องการความรู้สึกสบาย ผ่อนคลาย และดูอบอุ่นเป็นกันเอง สีที่นิยม เช่น สีน้ำตาลอ่อน , เบจ , ครีม , ไม้ธรรมชาติ , หรือ ทองแดงอ่อน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินโทนนี้มักใช้วัสดุที่มีผิวสัมผัสแบบธรรมชาติ เช่น ลายไม้โอ๊ค วอลนัท หรือไม้สน เพื่อเพิ่มมิติของเนื้อวัสดุและกลิ่นอายความเป็นบ้าน เหมาะกับห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือพื้นที่ที่ต้องการความผ่อนคลาย

           2. โทนสีเย็น (Cool Tone) เหมาะกับบ้านสไตล์โมเดิร์น มินิมอล หรือคอนโดที่ต้องการความเรียบหรูทันสมัย เช่น สีเทาอ่อน , ขาว , น้ำเงินอมเทา หรือ ดำด้าน แม้จะดูสุขุม แต่สามารถเพิ่มความอบอุ่นได้ด้วยการเลือกวัสดุพื้นผิวด้าน (Matte) แทนผิวมัน และใช้แสงไฟโทนอุ่นช่วยปรับสมดุลอารมณ์ของห้อง เช่น บิวท์อินโทนเทาเข้มจับคู่กับไฟ Warm White จะช่วยลดความแข็งของสี ทำให้ห้องดูนุ่มและสมดุลขึ้น

          3. โทนสีเอิร์ธโทน (Earth Tone) เป็นโทนสีที่อยู่ระหว่างกลางของอบอุ่นและเย็น เหมาะกับทุกสไตล์การตกแต่ง เช่น น้ำตาลเทา , คาเมล , โอลีฟ , หรือ เทาเบจ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ แต่ยังคงความทันสมัย เหมาะกับบ้านที่ต้องการความเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์

การเลือกโทนสีให้เหมาะกับขนาดห้องและแสงธรรมชาติ

       โทนสีไม่ได้แค่สื่ออารมณ์ แต่ยังส่งผลต่อมิติของพื้นที่โดยตรงอีกด้วยค่ะ ดังนั้นจึงควรเลือกสีให้เหมาะสมแต่กับละห้องของบ้าน เช่น

  1. ห้องขนาดเล็กใช้โทนสีอ่อน เช่น ขาว ครีม หรือไม้สีอ่อน จะช่วยให้ห้องดูกว้างและโปร่งขึ้น หากอยากเพิ่มความมีมิติ สามารถเพิ่มเส้นสายหรือขอบบิวท์อินด้วยสีเข้ม เช่น น้ำตาลเทา หรือดำบางส่วน
  2. ห้องขนาดใหญ่สามารถใช้โทนเข้มได้ เช่น วอลนัท น้ำตาลเข้ม หรือเทาเข้ม เพื่อเพิ่มความรู้สึกอบอุ่นและลดความโล่งเกินไป
  3. ห้องที่มีแสงธรรมชาติเข้าน้อย ควรเลือกสีอ่อนและวัสดุสะท้อนแสงเล็กน้อย เพื่อเพิ่มความสว่างโดยไม่ต้องพึ่งไฟมากเกินไป
  4. ห้องที่แสงธรรมชาติเข้าเยอะ ควรใช้สีโทนกลาง เช่น น้ำตาลเทา หรือไม้ธรรมชาติ เพราะแสงแดดสามารถทำให้สีอ่อนจ้าเกินไปได้ในบางช่วงของวัน
บิวท์อินกับการเลือกแสงไฟ

การเลือกแสงไฟ

         แสงไฟ คือ อีกองค์ประกอบหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะมันสามารถเปลี่ยนบรรยากาศได้อย่างมหาศาล

           1. แสงไฟหลัก (General Lighting) เป็นแสงไฟที่ให้ความสว่างโดยรวมของห้อง เช่น ไฟดาวน์ไลท์หรือโคมเพดาน
สำหรับบ้านที่ใช้บิวท์อินเยอะ ควรเลือกแสงไฟสี Warm White เพื่อให้เฟอร์นิเจอร์ดูนุ่มนวลและไม่แข็งกระด้าง

           2. แสงไฟเสริม (Accent Lighting) ใช้เพื่อเน้นจุดเด่นของพื้นที่ เช่น ไฟซ่อนใต้ชั้นวางของ หรือไฟข้างหัวเตียง เทคนิคนี้นิยมมากในงานบิวท์อิน เพราะช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ดูมีมิติและชีวิตชีวามากขึ้น เช่น การติดไฟซ่อนใต้ตู้โชว์ของสะสม หรือแสงไฟด้านหลังทีวีที่ช่วยลดความล้าสายตาและสร้างบรรยากาศดูหรูหรา

           3. แสงไฟตกแต่ง (Decorative Lighting) คือ ไฟที่เน้นความสวยงาม เช่น โคมไฟแขวน ผนังไฟกลม หรือไฟเพดานดีไซน์พิเศษ มักถูกนำมาใช้ร่วมกับงานบิวท์อินในห้องรับแขก ห้องทานอาหาร หรือมุมอ่านหนังสือ เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว

 

การออกแบบงานบิวท์อินให้รับกับแสงไฟ

       การบิวท์อินที่ดีควรเริ่มจากการ วางระบบไฟตั้งแต่ต้น เพื่อให้แสงและเฟอร์นิเจอร์ทำงานร่วมกันอย่างลงตัว เช่น การฝังไฟ LED ซ่อนไว้ในบัวไม้หรือหลังแผ่นผนังบิวท์อิน , การออกแบบช่องว่างสำหรับเดินสายไฟซ่อน หรือการเลือกวัสดุที่สะท้อนแสงเล็กน้อย เช่น ลามิเนตกึ่งด้าน เพื่อให้ไฟกระจายอย่างสวยงาม ในงานจริงทีมออกแบบอย่าง Mela Deco มักให้ความสำคัญกับรายละเอียดส่วนนี้มาก เพราะแสงไฟที่ดีไม่เพียงช่วยให้พื้นที่สวยขึ้น แต่ยังทำให้ผู้อยู่อาศัย รู้สึกดีทุกครั้งที่ได้อยู่ในบ้าน

บิวท์อินกับการเลือกวัสดุ

การเลือกวัสดุ

         โทนสีและแสงไฟจะไม่สมบูรณ์ หากไม่เลือกวัสดุให้เหมาะสม วัสดุแต่ละชนิดมีอุณหภูมิของผิวสัมผัสที่ต่างกัน ซึ่งมีผลโดยตรงต่ออารมณ์ของพื้นที่ เช่น

  • ไม้จริง / ลามิเนตลายไม้ ให้ความรู้สึกอบอุ่นและใกล้ชิดธรรมชาติ เหมาะกับบ้านที่ต้องการความเป็นกันเอง
  • ผิวด้าน (Matte Finish) ดูเรียบหรูและไม่สะท้อนแสง ช่วยให้ห้องดูสงบ
  • ผิวกึ่งเงา (Semi-gloss) เพิ่มความสว่าง เหมาะกับห้องที่แสงธรรมชาติน้อย
  • วัสดุผสมโลหะหรือกระจก ใช้แต่งแต้มบางจุด เช่น มือจับ หรือขอบตู้ เพื่อเพิ่มความโมเดิร์นโดยไม่ทำให้เย็นเกินไป

การใช้แสงและสีเพื่อสร้างจุดเด่นให้แต่ละห้อง

  • ห้องนั่งเล่น ใช้แสงไฟซ่อนใต้ชั้นทีวีและโซฟา เพื่อเพิ่มมิติ และเลือกโทนบิวท์อินไม้สีอ่อนคู่กับไฟ Warm White จะให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนคาเฟ่
  •  ห้องครัว แนะนำให้ใช้แสงสีขาวผสมโทนอุ่น (Neutral White) เพื่อให้มองเห็นอาหารชัดเจน และใช้บิวท์อินโทนไม้เข้มคู่ท็อปสีขาว จะให้ความรู้สึกสะอาดแต่ไม่เย็น
  • ห้องนอน ใช้ไฟหัวเตียงแบบ Dimmer ปรับแสงได้ และเลือกบิวท์อินโทน Earth Tone เช่น น้ำตาลเทา จะช่วยให้รู้สึกสงบและหลับสบาย
  • ห้องทำงาน ใช้โทนสีไม้ธรรมชาติผสมเทาอ่อน พร้อมไฟขาวนวล จะช่วยให้มีสมาธิแต่ไม่แข็งจนเกินไป

สรุป

        หากเปรียบแสงไฟ คือ จังหวะของอารมณ์ โทนสี คือ เสียงของความรู้สึก งานบิวท์อินก็ คือ เวทีที่เชื่อมทั้งสองสิ่งเข้าด้วยกันอย่างลงตัว เมื่อองค์ประกอบเหล่านี้สอดคล้องกัน บ้านของคุณจะไม่ใช่แค่พื้นที่อยู่อาศัย แต่คือที่พักใจ ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นทุกครั้งที่กลับมาค่ะ

          Mela Deco พร้อมช่วยคุณออกแบบงานบิวท์อินที่สมบูรณ์แบบทั้งในเรื่องฟังก์ชัน โทนสี และแสงไฟ เพื่อให้บ้านของคุณเป็นมากกว่าความสวย แต่คือพื้นที่ที่มีชีวิตและสะท้อนตัวตนของคุณอย่างแท้จริง สนใจบิวท์อินสามารถดูผลงานของเราได้ที่บทความ

More from Mela Deco

Earl Grey Veil ความสงบที่ซ่อนพลัง ผ่านโทนสีเทาอ่อน ครีม และน้ำตาลธรรมชาติ ผสานแสงทองละมุนอย่างประณีต เพื่อสร้างพื้นที่พักใจที่ทั้งละมุน ลุ่มลึก
Hojicha Reverence เสน่ห์ของความอบอุ่นผ่านโทนสีที่ผ่านการคั่ว พื้นผิวธรรมชาติ และจังหวะแสงที่ทำให้ทุกห้องกลายเป็นพื้นที่พักใจ เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
โทนสีของงานบิ้วอินส่งผลต่ออารมณ์เจ้าของบ้านอย่างไร? รู้จักจิตวิทยาของสีและวิธีเลือกโทนให้บ้านสวย น่าอยู่ และรู้สึกสบายใจทุกวัน
Rose Latte Serenity การออกแบบบิ้วอินที่ถ่ายทอดความหรูหราอย่างอ่อนโยน ผสานโทน Rosé Beige และแสงละมุน สะท้อนความสงบและอบอุ่นในทุกมุมของบ้าน
รู้ไหมว่าในการทำบิ้วอินบ้าน ไม่ได้มีแค่ช่างอย่างเดียว แต่ยังต้องมีอินทีเรียช่วยออกแบบด้วย! ทำความเข้าใจหน้าที่ของช่างบิ้วอินและอินทีเรียได้ที่นี่!
บิ้วอินช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ในบ้านอย่างไร? รู้จักผลทางจิตวิทยาของงานบิ้วอิน ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น