แต่งบ้านสไตล์ Japandi คืออะไร? ทำไมถึงมาแรงในปีนี้

สไตล์ Japandi คืออะไร ทำไมถึงมาแรง

       สไตล์ Japandi หนึ่งในเทรนด์ตกแต่งบ้านที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เพราะเป็นการผสมผสานความ “อบอุ่นแบบญี่ปุ่น” เข้ากับ “ความเรียบหรูแบบสแกนดิเนเวีย” ได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นสไตล์ที่ทั้งสงบ เรียบง่าย แต่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ชีวิตจริ สำหรับใครที่กำลังคิดจะแต่งบ้าน-คอนโดหรือรีโนเวทใหม่ การเข้าใจแนวคิดของ สไตล์ Japandi และเลือกใช้งานบิวท์อินอย่างเหมาะสม จะช่วยให้บ้านของคุณสวยอย่างมีมิติ และยังใช้งานได้อย่างคุ้มค่าในระยะยาวอีกด้วยค่ะ

สไตล์ Japandi คืออะไร

Japandi คืออะไร ?

       คำว่า Japandi มาจากการรวมกันของคำว่า Japanese (ญี่ปุ่น) และ Scandinavian (สแกนดิเนเวีย) ซึ่งสองสไตล์นี้มีแนวคิดที่คล้ายกันอย่างน่าสนใจ ทั้งคู่ให้ความสำคัญกับ “ความเรียบง่าย” “การใช้วัสดุจากธรรมชาติ” และ “พื้นที่ที่ปลอดโปร่งและใช้งานได้จริง” ดังนั้น Japandi จึงเป็นการผสมผสานระหว่างความอบอุ่น–มินิมอล–ฟังก์ชันครบ ของทั้งสองวัฒนธรรม จนเกิดเป็นสไตล์ที่เรียบง่ายแต่มีเสน่ห์ และเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการบ้านสวยแต่ไม่ฟุ่มเฟือยค่ะ

บิวท์อิน Japandi คืออะไร ? ทำไมถึงเหมาะกับบ้านยุคนี้

     บิวท์อิน Japandi หมายถึง งานออกแบบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบบิวท์อิน (Built-in Furniture) ที่ยึดแนวคิดและดีไซน์ในสไตล์ Japandi มาใช้ ทั้งในเรื่องวัสดุ สี โครงสร้าง และฟังก์ชัน เฟอร์นิเจอร์บิวท์อินแบบนี้จะไม่ใช่เพียงชิ้นตกแต่งแต่เป็นองค์ประกอบของสถาปัตยกรรมที่ช่วยจัดการพื้นที่และเสริมบรรยากาศให้ห้องดูอบอุ่น มีระเบียบ และน่าอยู่

จุดเด่นของ Japandi

จุดเด่นของสไตล์ Japandi

         1. โทนสีอบอุ่นและกลมกลืนกับธรรมชาติ สไตล์ Japandi จะเน้นโทนสีเอิร์ธโทน (Earth Tone) เช่น สีเบจ สีไม้ธรรมชาติ สีเทาอ่อน สีครีม และสีขาว เพื่อสร้างบรรยากาศสงบและผ่อนคลาย สีเหล่านี้ยังช่วยให้พื้นที่ดูกว้างขึ้นและสบายตา เหมาะกับคอนโดหรือบ้านขนาดเล็ก และหากต้องการให้ห้องดูมีมิติ ลองเพิ่มแสงไฟโทนอุ่นหรือเลือกพื้นไม้ที่มีลวดลายธรรมชาติ จะช่วยให้ความรู้สึก Cozy มากยิ่งขึ้น

         2. การใช้วัสดุธรรมชาติเป็นหัวใจสำคัญ Japandi เชื่อว่าความสวยงามเกิดจากความเป็นธรรมชาติ มากกว่าความหรูหราเกินจำเป็น วัสดุยอดนิยมที่ใช้ในงานตกแต่งคือไม้ ผ้า ลินิน หวาย เซรามิก และหินธรรมชาติ ซึ่งช่วยเพิ่มสัมผัสอบอุ่นและกลิ่นอายแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง โดยเฉพาะในงานบิวท์อิน Japandi มักเลือกใช้ไม้โทนอ่อน เช่น ไม้โอ๊ก ไม้สน หรือไม้แอช เพื่อให้ความรู้สึกเบาและกลมกลืนกับโทนห้อง

           3.  ความเรียบง่ายแต่ใช้งานได้จริง หัวใจของสไตล์นี้คือ เรียบง่ายแต่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน ทุกชิ้นในบ้านจะมีฟังก์ชันที่ชัดเจน ไม่เน้นของตกแต่งเยอะ แต่เน้นคุณภาพและการใช้งานที่คุ้มค่า เช่น ตู้บิวท์อินเก็บของที่ซ่อนฟังก์ชันได้หลายแบบ โต๊ะทำงานที่ปรับระดับได้ หรือชั้นเก็บของที่เรียบแต่มีระบบจัดระเบียบในตัว

           4. พื้นที่โล่ง โปร่ง และระเบียบเรียบร้อย ในบ้านสไตล์ Japandi จะไม่เน้นการวางของเยอะ เพราะเชื่อว่าความสงบเริ่มจากความเป็นระเบียบ การออกแบบจะเน้นพื้นที่เปิดโล่ง การจัดเฟอร์นิเจอร์แบบไม่เบียดชิด และเว้นพื้นที่ว่างเพื่อให้การใช้งานรู้สึกเบาสบาย ดังนั้น งานบิวท์อิน Japandi จึงเป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้บ้านดูสะอาดตาและจัดเก็บของได้อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในคอนโดหรือบ้านขนาดจำกัด การเลือกทำบิวท์อินแบบซ่อนพื้นที่เก็บของ ถือเป็นวิธีเพิ่มฟังก์ชันโดยไม่ทำให้ห้องดูรก

           5. ความกลมกลืนระหว่างแสงและวัสดุ แสงในสไตล์ Japandi มีบทบาทมากกว่าการให้ความสว่าง เพราะมันช่วยสร้างอารมณ์ ให้ห้องดูอบอุ่นและนุ่มนวล แสงไฟที่นิยมใช้คือแสงโทนอุ่น (Warm White) ร่วมกับแสงธรรมชาติจากหน้าต่างบานใหญ่ และม่านผ้าลินินที่กรองแสงให้ดูละมุน

ทำไม Japandi ถึงมาแรง

ทำไมสไตล์ Japandi ถึงมาแรงในปีนี้

  1. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ที่ต้องการความสงบและสมดุล หลังจากยุคที่ผู้คนใช้ชีวิตเร่งรีบ การกลับมาสู่บ้านที่สงบและผ่อนคลาย กลายเป็นสิ่งที่หลายคนโหยหา ซึ่ง Japandi สามารถตอบโจทย์ได้ทั้งความสวยและความเรียบง่าย
  2. เหมาะกับพื้นที่ขนาดเล็กอย่างคอนโด การออกแบบที่เน้นฟังก์ชันและการใช้พื้นที่อย่างคุ้มค่า ทำให้สไตล์นี้เป็นที่นิยมในกลุ่มคนเมืองที่อยู่คอนโด เพราะสามารถจัดของได้เป็นระเบียบโดยไม่ดูอึดอัด
  3. ความยั่งยืน สไตล์ Japandi ใช้วัสดุธรรมชาติและเน้นของที่ใช้ได้นาน ไม่เปลี่ยนบ่อย จึงเข้ากับแนวคิด “บ้านยั่งยืน” ที่เป็นเทรนด์ใหญ่ระดับโลกในตอนนี้
  4. ดีต่อสุขภาพจิตและร่างกาย สีโทนอ่อนและวัสดุไม้ธรรมชาติช่วยลดความเครียดได้จริงตามหลักจิตวิทยาสี และทำให้บ้านกลายเป็นพื้นที่พักผ่อนอย่างแท้จริง
ตกแต่งบิวท์อิน Japandi by Mela Deco

ไอเดียตกแต่งบิวท์อิน Japandi ในแต่ละห้อง

ห้องนั่งเล่น

  • ตู้บิวท์อินไม้โทนอ่อนเรียบเสมอผนัง
  • ชั้นโชว์ของเซรามิกหรือหนังสือ
  • โซฟาผ้าสีเบจเรียบ ๆ กับหมอนลินิน
  • เพิ่มความอบอุ่นด้วยไฟโทนอุ่นและพรมทอมือ

ห้องนอน

  • เตียงบิวท์อินแบบมีช่องเก็บของด้านล่าง
  • ผนังหัวเตียงกรุไม้หรือผ้า
  • โต๊ะหัวเตียงมินิมอล
  • ผ้าม่านลินินที่ปล่อยแสงธรรมชาติเข้าได้บางส่วน

ห้องครัว

  • ชุดครัวบิวท์อินไม้ธรรมชาติเรียบเสมอผนัง
  • เคาน์เตอร์ท็อปหินสีอ่อน
  • มือจับแบบซ่อน หรือระบบ push open
  • ใช้ไฟ LED ซ่อนใต้ตู้เพื่อสร้างบรรยากาศอบอุ่น
ตกแต่งบิวท์อิน Japandi by Mela Deco

Japandi โดย Mela Deco

         การทำงานบิวท์อินสไตล์ Japandi ต้องอาศัยทั้ง ความเข้าใจดีไซน์และความละเอียดในการติดตั้ง ซึ่งไม่ใช่ทุกทีมจะสามารถทำให้ได้กลิ่นอายแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ และสแกนดิเนเวียในเวลาเดียวกันได้อย่างลงตัว Mela Deco คือทีมออกแบบและผลิตงาน บิวท์อินสไตล์ Japandi ที่เข้าใจทั้งความงามของเส้นสายเรียบง่ายและการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน Mela Deco สามารถช่วยออกแบบและติดตั้งบิวท์อินให้เข้ากับทุกพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้านเดี่ยว หรือออฟฟิศ

จุดเด่นของ Mela Deco 

  • ดีไซน์ตามความต้องการลูกค้า (Custom Design)
  • ใช้วัสดุคุณภาพสูง ทนทานและสวยงาม
  • งานละเอียดและเก็บขอบเรียบทุกจุด
  • มีบริการออกแบบ 3D ก่อนผลิตจริง
  • เข้าใจสไตล์ Japandi ทั้งในแง่ฟังก์ชันและบรรยากาศ

สรุป

        สไตล์ Japandi ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม แต่ยังสะท้อนถึงแนวคิดของการใช้ชีวิตอย่างมีสมดุล เรียบง่าย และอยู่ใกล้ธรรมชาติ เมื่อผสานกับ บิวท์อิน Japandi ที่ออกแบบมาอย่างลงตัว บ้านของคุณจะกลายเป็นพื้นที่ที่ทั้งอบอุ่น ใช้งานได้จริง และสะท้อนตัวตนได้อย่างสวยงาม

          หากคุณอยากแต่งบ้านหรือคอนโดให้มีกลิ่นอายสไตล์ Japandi อย่างแท้จริงเริ่มต้นได้ง่าย ๆ ด้วยการปรึกษาทีมออกแบบ Mela Deco เพราะบ้านที่สวย ไม่ได้อยู่ที่ของแต่งเยอะ แต่อยู่ที่ความลงตัวของดีไซน์และความรู้สึกที่ได้กลับมาอยู่บ้านค่ะ สนใจงานของเราสามารถดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่บทความ

More from Mela Deco

Earl Grey Veil ความสงบที่ซ่อนพลัง ผ่านโทนสีเทาอ่อน ครีม และน้ำตาลธรรมชาติ ผสานแสงทองละมุนอย่างประณีต เพื่อสร้างพื้นที่พักใจที่ทั้งละมุน ลุ่มลึก
Hojicha Reverence เสน่ห์ของความอบอุ่นผ่านโทนสีที่ผ่านการคั่ว พื้นผิวธรรมชาติ และจังหวะแสงที่ทำให้ทุกห้องกลายเป็นพื้นที่พักใจ เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
โทนสีของงานบิ้วอินส่งผลต่ออารมณ์เจ้าของบ้านอย่างไร? รู้จักจิตวิทยาของสีและวิธีเลือกโทนให้บ้านสวย น่าอยู่ และรู้สึกสบายใจทุกวัน
Rose Latte Serenity การออกแบบบิ้วอินที่ถ่ายทอดความหรูหราอย่างอ่อนโยน ผสานโทน Rosé Beige และแสงละมุน สะท้อนความสงบและอบอุ่นในทุกมุมของบ้าน
รู้ไหมว่าในการทำบิ้วอินบ้าน ไม่ได้มีแค่ช่างอย่างเดียว แต่ยังต้องมีอินทีเรียช่วยออกแบบด้วย! ทำความเข้าใจหน้าที่ของช่างบิ้วอินและอินทีเรียได้ที่นี่!
บิ้วอินช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ในบ้านอย่างไร? รู้จักผลทางจิตวิทยาของงานบิ้วอิน ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น