How to เลือกวัสดุพื้นให้เหมาะกับห้องบิวท์อิน
How to เลือกวัสดุพื้นให้เหมาะกับห้อง

          การเลือกวัสดุพื้นให้เหมาะสมกับห้องบิวท์อินต่าง ๆ ในบ้านของเรา ถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการจะเลือกใช้งานห้องในส่วนนั้น ๆ เพราะนอกจากงบประมาณในการเลือกแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมาก แถมมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ในบทความนี้ Mela Deco เลยจะพามารู้จักกับวัสดุพื้นทั้ง 3 ชนิดด้วยกันค่ะ

ไม้จริง

พื้นไม้จริง (Solid Wood)

          ทำจากไม้จริงทั้งชิ้น นำมาแปรรูปเป็นแผ่น ๆ แล้วทำรางลิ้นรอบตัว ชุบสารกันแมลง และเคลือบผิวหน้าเพื่อให้มีความคงทน ลวดลายและสัมผัสก็จะธรรมชาติจากตัวไม้เอง ไม้จริงที่จะนิยมมาปูพื้น ก็จะเป็นพวก ไม้แดง ไม้มะค่า และไม้สัก ซึ่งเป็นไม้เนื้อแข็ง มีปัญหาเรื่องปลวกน้อย

          สำหรับขนาดที่นิยมนำไปใช้งานนั้น จะมีความหนาประมาณ 18 มิลลิเมตร มีหน้ากว้างประมาณ 90 มิลลิเมตร โดยมีอายุการใช้งานเฉลี่ย 10-15 ปี

ข้อดีของพื้นไม้จริง
● การติดตั้งรวดเร็ว เพราะไม่ต้องรอขัดทำสี
● มีรางลิ้นรอบตัว จึ่งทำให้การปูพื้นมีความราบเรียบสม่ำเสมอ
● ลวดลายและสัมผัสก็จะธรรมชาติ
● อายุการใช้งานยาวนาน สามารถขัดหน้าผิวไม้เพื่อทำสีใหม่ได้หลายครั้ง เนื่องจากไม้มีความหนามากกว่าแบบอื่น ๆ

ข้อเสียของพื้นไม้จริง
● มีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับไม้ปูพื้นแบบอื่น ๆ
● ไม่ทนไฟ ไม่สามารถป้องกันการลามไฟได้
● ไม่ค่อยทนความชื้น มีโอกาสยืด หด บิด หรือห่อตัวได้มากกว่าแบบอื่น ๆ เนื่องจากเป็นโครงสร้างของไม้ชิ้นเดียวทั้งแผ่น
● อาจมีปัญหาเรื่องปลวก

การติดตั้งพื้นไม้จริง : ใช้วิธีการปูแบบ knock down คือปูไม้อัดก่อน แล้วยิงตะปู ฉะนั้นเวลารื้อต้องรื้อทั้งแผง ต่างจากไม้เอ็นจิเนียร์ที่ปูแบบลอยตัวหรือปูกาว เมื่อเสียหายสามารถรื้อเพื่อซ่อมแซมเป็นบางส่วนได้

การทนความชื้น : มีโอกาสยืด หด บิด แอ่น โก่งตามสภาพอากาศ ไม่ควรแช่น้ำนาน ๆ

พื้นลามิเนต

พื้นลามิเนต (Laminate)

          ลามิเนตทำจากผงไม้บดผสมสารสังเคราะห์ มีหลากหลายลวดลายให้เลือก มีผิวสัมผัสใกล้เคียงกับไม้จริง ทำให้บรรยากาศในห้องดูอบอุ่น ไม่เหมาะกับบริเวณที่มีความชื้นสูง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือบริเวณภายนอกบ้าน

           อายุการใช้งานปกติจะเฉลี่ย 10-15 ปี แต่ถ้าเป็นเกรดพรีเมี่ยม อาจมีอายุการใช้งานเฉลี่ยมากกว่า 15 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลรักษาของเจ้าของบ้าน

ข้อดีของพื้นลามิเนต
● มีความทนทานต่อการรับน้ำหนัก ส่วนบนสุดเคลือบด้วยเมลามีนเรซิน ทำให้ทนแรงกระแทกขีดข่วนได้ดี รวมถึงช่วยป้องกันพื้นลามิเนตจากการทำลายจากปลวกและแมลงศัตรูของไม้
● มีน้ำหนักเบา ราคาถูก
● ติดตั้งง่ายและรวดเร็ว เปลี่ยนเฉพาะแผ่นได้ไม่ต้องรื้อใหม่ทั้งหมด เพราะใช้ระบบ Click Lock

ข้อเสียของพื้นลามิเนต
● มีประสิทธิภาพในการทนความชื้นค่อนข้างต่ำ หากแช่น้ำเป็นเวลานานจะทำให้เกิดการบวมพองและบิดตัว
● มีโอกาสโดนปลวกกินถ้าเลือกใช้เกรดไม่ดี
● ไม่สามารถทำความสะอาดด้วยน้ำยาขัดเงาหรือน้ำยาที่มีส่วนผสมของสบู่ได้

การติดตั้ง: ทำได้ง่ายรวดเร็วด้วยระบบกลไกการล๊อกที่เชื่อมต่อระหว่างแผ่นไม้ (Click Lock)

การเตรียมพื้น: ปูทับ พื้นกระเบื้องหรือพื้นฉาบเรียบได้เลย

การทนความชื้น: ไม่ทนเปียกชื้น หากทำน้ำหกใส่ควรเช็ดออกทันที รวมถึงไม่ควรเปิดหน้าต่างทิ้งไว้ เพราะถ้าโดนฝนสาดเข้ามา พื้นลามิเนตจะบวมพองได้

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์

พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ (Engineering Wood)

          พื้นไม้เอ็นจิเนียร์ คือพื้นไม้ที่ผ่านการปรับคุณสมบัติให้เหมาะสมกับการก่อสร้าง สวยงาม คงทน ผิวสัมผัสเหมือนพื้นไม้จริง เพราะพื้นผิวชั้นบนสุดของพื้นไม้เอ็นจิเนียร์ก็คือเนื้อไม้แท้ ๆ ประกอบด้วยวัสดุ 3 ส่วน คือ

● ชั้นล่างสุดจะเป็นวัสดุไม้ยางพารานำมาประกบพื้นไม้
● ชั้นที่สองจะเป็นไม้ยางพาราฝนเป็นชิ้นเล็ก ๆ เรียงตัวเป็นแนวขวางกับผิวหน้าไม้จริง เว้นช่องว่างเล็กน้อยเพื่อให้อากาศถ่ายเท และเผื่อพื้นที่ให้ไม้ได้ยืดหยุ่นขยายตัว ลดการปริแตก
● ชั้นสุดท้ายคือชั้นผิวไม้จริง มีไม้หลายชนิดที่เป็นที่นิยม เช่น ไม้บีช ไม้โอ๊ก หรือไม้มะค่า

ข้อดีพื้นไม้เอ็นจิเนียร์
● ผิวสัมผัสเหมือนพื้นไม้จริง
● หากชำรุดเสียหาย สามารถเปลี่ยนเฉพาะแผ่นได้
● ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็ว เพราะไม่ต้องขัดทำสี
● ทนแรงกระแทกและการขูดขีดได้ค่อนข้างดีทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดของไม้ผิวหน้า

ข้อเสียพื้นไม้เอ็นจิเนียร์
● ขัดทำสีใหม่ได้ไม่เกิน 2 ครั้ง เนื่องจากไม้ผิวหน้าค่อนข้างบาง จึงนิยมเปลี่ยนแผ่นใหม่ หรือเปลี่ยนสีพื้นไปเลย
● ทนความชื้นไม่ค่อยดี เพราะยังมีส่วนประกอบของไม้จริง
● ราคาค่อนข้างสูง

การติดตั้ง: ปูลอยตัว (ใช้โฟมปรับระดับพื้นห้องแล้วปูไม้ลงไป)
การทนความชื้น: ทนได้พอประมาณ แต่ถ้าแช่น้ำนาน ๆ จะเกิดอาการบวมพอง

          นอกจากงบประมาณที่แตกต่างกันแล้วนั้น ยังมีเรื่องผิวสัมผัส การติดตั้งและการใช้งานของแต่ละวัสดุด้วย เพราะแต่ละวัสดุก็มีความแตกต่างกันออกไปมากมาย จึงควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญและเลือกใช้งานให้เหมาะสมกับห้องบิวท์อินต่าง ๆ และถ้าหากเพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังสนใจหาตัวช่วยในการออกแบบพื้นที่ในบ้าน หรือเฟอร์นิเจอร์บิวท์อินลองทักหา Mela Deco ได้เลยน๊า ทีมงานพร้อมให้บริการสุด ๆ เลยค่ะ

Website :: https://meladeco.com/
Official Instagram :: https://www.instagram.com/meladecoth/
Line Official :: @meladeco
Official Fanpage ::
https://www.facebook.com/MelaDecoTH

 

More from Mela Deco

เพิ่มมูลค่าอสังหาฯ ด้วยงานบิวท์อิน ดีไซน์หรู ใช้งานจริง ใช้พื้นที่คุ้มค่า พร้อมปล่อยเช่าหรือขายต่อได้ทันที ออกแบบโดยทีมมือ เช่น MELA DECO
ตกแต่งภายในคอนโด 30 ตารางเมตร ในสไตล์ Modern Minimal โดย Mela Deco เฟอร์ครบ วัสดุคุณภาพสูง โปรพิเศษราคา 299,000 บาท ถึง 31 ตุลาคมนี้
รีวิวการออกแบบบิวท์อิน Niche Mono Condo โดย Mela Deco ออกแบบโทนอบอุ่น โปร่งโล่ง ใช้พื้นที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ทั้งสวยงามและใช้งานจริง
เคล็ดลับใช้กระจกในงานบิวท์อิน เปลี่ยนห้องเล็กให้ดูกว้าง โปร่ง หรู พร้อมรวมเทคนิคการออกแบบพื้นที่เล็กให้ดูกว้างขึ้นแบบสามารถนำไปทำตามได้จริง
ชมผลงานออกแบบตกแต่งภายในบิวท์อิน Q House ดีไซน์ลงตัวทุกมุมบ้าน สวยมีสไตล์ ใช้งานได้จริง สะท้อนเอกลักษณ์การออกแบบที่พิถีพิถัน
สำรวจ 3 สไตล์บิวท์อินยอดฮิต Modern, Minimal และ Luxury พร้อมจุดเด่นและเอกลักษณ์เฉพาะตัว เลือกแบบที่ใช่ให้บ้านสวยตรงใจคุณอ่านได้ในบทความนี้!

MELA DECO

Mela Deco รับออกแบบตกแต่งภายใน
ผลิตและติดตั้ง ที่ให้คุณได้ครบจบทั้งห้อง
ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์บิลต์อิน
หรือเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว
ตอบโจทย์ทุก Lifestyle

Latest Projects