วัสดุยอดนิยมในงานบิ้วอิน MDF HMR ไม้จริง ไม้อัด เลือกยังไงให้คุ้ม

งานบิ้วอินไม่ว่าจะเป็นคอนโด บ้าน หรือโฮมออฟฟิศ ล้วนต้องอาศัยวัสดุที่เหมาะสมกับงบประมาณและรูปแบบการใช้งาน เพราะวัสดุคือหัวใจสำคัญที่จะกำหนดทั้งความสวยงาม ความทนทาน อายุการใช้งาน ตลอดจนภาพรวมของงานออกแบบ เมื่อเริ่มต้นทำเฟอร์นิเจอร์บิ้วอิน หลายคนจึงมักมีคำถามเดียวกันว่า ควรเลือกวัสดุอะไรดี MDF, HMR, ไม้จริง หรือไม้อัดแบบไหนคุ้มกับเงินที่สุด?” ในบทความนี้ Mela Deco จะพาไปรู้จักวัสดุยอดนิยมทั้ง 4 แบบ พร้อมแนะนำว่าเหมาะกับงานประเภทไหน จุดเด่น จุดด้อยเป็นอย่างไร และควรเลือกแบบไหนให้เหมาะกับงบและไลฟ์สไตล์ โดยอ้างอิงมุมมองของเราเพื่อให้คุณเลือกวัสดุได้อย่างมั่นใจและคุ้มค่าที่สุดค่ะ

 

MELA DECO เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน

 

 

 

1. ไม้ MDF (Medium Density Fiberboard)

MDF คือแผ่นไม้สังเคราะห์ที่ผลิตจากเส้นใยไม้บดละเอียดผสมกาว จากนั้นอัดด้วยความร้อนจนกลายเป็นแผ่นไม้เนื้อแน่น เรียบเนียน และสม่ำเสมอ ทำให้เป็นวัสดุที่ถูกใช้บ่อยที่สุดในงานบิ้วอินยุคปัจจุบัน โดยเฉพาะงานที่ต้องการความเรียบเนียนและผิวสวยเป็นพิเศษ เหมาะกับงานผนังตกแต่ง , ตู้เสื้อผ้า , ตู้โชว์ , งานดีไซน์โค้ง , งานที่ต้องการพื้นผิวเนี๊ยบแบบ Minimal Mela Deco มักใช้ MDF ในงานที่ต้องการความละเมียดของผิวหรือการพ่นสีให้ดูพรีเมียม ด้วยการซีลผิวอย่างดีและเก็บรอยต่อละเอียด ทำให้ชิ้นงานออกมาสวยและทนมากกว่างานทั่วไป เหมาะกับลูกค้าที่ต้องการงานบิ้วอินโมเดิร์น เรียบแต่หรู

ข้อดีของไม้ MDF

  1. พื้นผิวเรียบมาก เหมาะกับงานทำสี พ่นสี หรือปิดผิวลามิเนต/วีเนียร์
  2. ดัดโค้งได้ดี เหมาะกับงานดีไซน์ร่วมสมัยที่มีความโค้งมน
  3. ราคาย่อมเยา คุ้มค่ากับงบประมาณของหลายบ้าน
  4. น้ำหนักไม่มากเกินไป ติดตั้งง่าย

ข้อเสียของไม้ MDF

  1. ไม่ทนน้ำ หากโดนความชื้นสูงหรือรั่วซึม อาจบวมได้
  2. แข็งแรงปานกลาง ไม่เหมาะกับการรับน้ำหนักมาก เช่น ชั้นที่วางของหนักมาก ๆ

 

 

2. ไม้ HMR (High Moisture Resistance)

HMR คือแผ่นไม้ MDF แบบอัปเกรดเพิ่มความสามารถในการกันความชื้น โดยใช้เรซิ่นพิเศษ ทำให้สามารถทนต่อสภาพแวดล้อมที่มีน้ำหรือความชื้นมากกว่า MDF ปกติแบบเห็นได้ชัด เหมาะกับการนำไปทำเคาน์เตอร์ครัว , ตู้ใต้อ่างล้างหน้า , งานบิ้วอินใกล้หน้าต่างหรือพื้นที่ที่อาจโดนน้ำ , ตู้รองเท้าที่ใกล้ประตูหรือพื้นที่เปียกชื้นบ่อย Mela Deco เลือกใช้ HMR เป็นวัสดุมาตรฐานในงานที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ เช่น ครัวหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงเรื่องน้ำ เพราะต้องการให้ลูกค้าใช้งานได้ยาว ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องบวมในอนาคต ถือเป็นวัสดุที่คุ้มค่ามากเมื่อเทียบกับความทนชื้นที่ได้

ข้อดีของไม้ HMR

  1. กันน้ำได้ดีมาก ไม่บวมง่ายเมื่อโดนน้ำ
  2. มิติเสถียรกว่า MDF ไม่บิดงอง่าย
  3. พื้นผิวเรียบเหมือน MDF ใช้งานได้หลากหลายเหมือนกัน
  4. อายุการใช้งานยาวนานกว่าในพื้นที่ชื้น

ข้อเสียของไม้ HMR

  • ราคาสูงกว่า MDF
  • น้ำหนักมากกว่าเล็กน้อย
  • ยังไม่แข็งแรงเท่าไม้จริง

 

 

3. ไม้จริง (Solid Wood)

ไม้จริง คือวัสดุจากธรรมชาติที่ได้จากต้นไม้โดยตรง มีความแข็งแรง ทนทาน และมีลวดลายเฉพาะตัว ทำให้งานบิ้วอินที่ใช้ไม้จริงดูอบอุ่น มีเอกลักษณ์ และให้ความรู้สึกหรูหราอย่างชัดเจน เหมาะกับงานที่ต้องการโชว์ลายไม้ธรรมชาติ , ประตูบานใหญ่ , ผนังไม้ , งานบ้านสไตล์ญี่ปุ่น มินิมอล โมเดิร์นลักซ์ แม้ไม้จริงจะมีราคาสูง แต่ Mela Deco มักเลือกใช้เฉพาะจุดที่ต้องการความโดดเด่น เช่น ฟาซาดตกแต่ง ผนังหลังทีวี หรือมือจับ เพื่อให้ได้ลุคหรูและอบอุ่น โดยไม่ทำให้ต้นทุนทั้งงานสูงเกินไป เป็นการผสมผสานอย่างชาญฉลาดให้หรูแบบคุ้มค่า

ข้อดีของไม้จริง

  1. แข็งแรงที่สุด เมื่อเทียบกับวัสดุทั้งหมด
  2. ลายไม้สวยเป็นธรรมชาติ ให้ความรู้สึกหรูและ timeless
  3. อายุการใช้งานยาวนานมาก หลายสิบปี
  4. ซ่อมแซมง่าย เช่น ขัดผิว ทาสีใหม่

ข้อเสียของไม้จริง

  1. ราคาสูงที่สุด
  2. อาจหดและขยายตามอุณหภูมิ ต้องติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ
  3. ไวต่อปลวก หากไม่ผ่านการอบหรือน้ำยา
  4. น้ำหนักมาก

 

 

4. ไม้อัด (Plywood)

ไม้อัด ผลิตจากการนำแผ่นไม้บาง ๆ มาซ้อนและอัดกาวในทิศทางสลับกัน ทำให้เกิดแผ่นไม้ที่มีความแข็งแรงกว่าการประกบไม้ทั่วไป ทั้งยังเบากว่าไม้จริงและมีราคาสมเหตุสมผล จึงเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมของงานบิ้วอินหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเหมาะกับชั้นวางของที่ต้องรับน้ำหนัก , ตู้ครัว , ตู้เก็บของในบ้าน , งานที่ต้องการความแข็งแรงและน้ำหนักเบา

ข้อดีของไม้อัด

  1. แข็งแรงกว่า MDF และไม่แตกง่าย
  2. น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายและติดตั้งง่าย
  3. ทนน้ำได้ดีกว่า MDF
  4. ยึดสกรูดี เหมาะกับงานที่ต้องรับแรง
  5. ราคาไม่สูงเกินไป

ข้อเสียของไม้อัด

  1. ผิวไม่เรียบเนียนเท่า MDF
  2. อาจโก่งได้ หากคุณภาพไม่ดีพอ
  3. ต้องเลือกเกรดดี เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเสี้ยนหรือผิวไม่สวย

 

เลือกวัสดุทำบิ้วอินยังไงให้คุ้มที่สุด

เมื่อพูดถึงการเลือกวัสดุสำหรับงานบิ้วอิน หลายคนอาจคิดว่าเลือกแบบไหนก็เหมือนกัน แต่อันที่จริงแล้วความคุ้มค่าไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาอย่างเดียว แต่เกิดจากการเลือกวัสดุให้ เหมาะสมกับพื้นที่การใช้งาน ไลฟ์สไตล์ และรูปแบบการดูแลรักษาของเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นสิ่งที่มักถูกมองข้าม โดยเฉพาะผู้ที่เพิ่งเริ่มทำบิ้วอินครั้งแรก ซึ่งเราสามารถวิเคราะห์ได้ตามปัจจัยเหล่านี้

1. พื้นที่ใช้งานจริง ว่าเป็นพื้นที่แห้งหรือพื้นที่เสี่ยงน้ำ เพราะวัสดุแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่ต่างกันอย่างชัดเจน เช่น ในห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นซึ่งเป็นพื้นที่แห้ง MDF และไม้อัดถือว่าตอบโจทย์ที่สุด เพราะให้ความเรียบเนียนและประหยัดงบได้ดี ในขณะที่งานครัวหรือตู้ใต้อ่างล้างหน้า พื้นที่เหล่านี้เต็มไปด้วยไอน้ำและโอกาสโดนน้ำโดยตรง HMR หรือไม้อัดกันชื้นจะให้ความมั่นใจมากกว่า เพราะช่วยป้องกันปัญหาบวมและเสียรูปได้ดีกว่าในระยะยาว

2. สไตล์ที่เจ้าของบ้านชอบ เพราะงานบิ้วอินไม่ใช่แค่เรื่องการใช้งาน แต่คืองานออกแบบภายในที่ต้องอยู่กับเราไปอีกหลายปี หากคุณชอบงานโมเดิร์น เรียบเนียน ไม่มีรอยต่อ และอยากได้งานพ่นสีแบบเนี๊ยบสุด ๆ MDF จะตอบโจทย์ที่สุด แต่หากต้องการงานที่ให้ความรู้สึกธรรมชาติ อบอุ่น เห็นลายไม้ชัด ๆ วัสดุอย่างไม้จริงหรือไม้อัดปิดวีเนียร์ก็จะสร้างบรรยากาศแบบที่วัสดุอื่นเลียนแบบได้ยาก

3. งบประมาณและความคุ้มค่าในระยะยาว หากต้องการควบคุมงบแต่ก็อยากได้งานที่ดูดี MDF ถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ในขณะที่ไม้อัดให้ความแข็งแรงมากกว่า เหมาะกับงานที่ต้องรองรับน้ำหนัก ส่วน HMR ก็เป็นการเพิ่มงบขึ้นเล็กน้อยเพื่อแลกกับการป้องกันปัญหาในอนาคต โดยเฉพาะบ้านหรือคอนโดที่มีสภาพอากาศชื้น หรือผู้ที่ใช้งานครัวหนัก ส่วนไม้จริงนั้นเหมาะกับบ้านที่ต้องการความหรูหราและอายุการใช้งานยาวนาน ซึ่งแม้จะมีราคาสูง แต่ความสวยของลายไม้และความแข็งแรงก็ให้ความคุ้มค่าในด้านความรู้สึกและภาพรวมของบ้าน

4. ทีมงานบิ้วอินที่ไว้ใจได้ ก็มีบทบาทสำคัญมาก หากช่างไม่มีความเชี่ยวชาญ วัสดุพรีเมียมก็อาจกลายเป็นงานที่มีปัญหาได้ เช่น การซีลขอบไม่ดี งานติดตั้งไม่เรียบ หรือเลือกวัสดุไม่เหมาะกับโครงสร้างจริงในพื้นที่บ้าน ลูกค้าหลายคนของ Mela Deco มักพบว่าการได้ช่างที่อธิบายวัสดุอย่างละเอียด พร้อมแนะนำตามความเหมาะสม ทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้นและช่วยลดความเสี่ยงในการแก้งานภายหลัง ซึ่งเป็นต้นทุนแฝงที่หลายคนไม่เคยนึกถึงมาก่อน

ดังนั้นความคุ้มค่าในงานบิ้วอินคือผลรวมของวัสดุที่เหมาะสม , การออกแบบที่เข้าใจพื้นที่ , การติดตั้งแบบมืออาชีพ ทั้งหมดนี้ต้องทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น จึงจะได้ผลลัพธ์ที่ดี ใช้งานได้จริง และอยู่กับคุณไปได้ในระยะยาว

 

MELA DECO เฟอร์นิเจอร์บิวท์อิน

 

สรุป

เมื่อลองเปรียบเทียบวัสดุทั้ง MDF, HMR, ไม้จริง และไม้อัด จะเห็นได้ว่าวัสดุแต่ละชนิดล้วนมีจุดเด่นเฉพาะด้านและเหมาะกับงานที่ต่างกัน ไม่มีวัสดุใดดีที่สุดสำหรับทุกงาน แต่มีวัสดุที่เหมาะที่สุดสำหรับความต้องการของคุณ หากต้องการงานพ่นสีเนียน ๆ และควบคุมงบ MDF จะตอบโจทย์ หากพื้นที่เสี่ยงน้ำ HMR ก็ช่วยให้สบายใจขึ้น งานที่ต้องรับน้ำหนัก ไม้อัดคือคำตอบ ส่วนงานที่ต้องการความพรีเมียมและความสวยแบบธรรมชาติ ไม้จริงคือวัสดุที่ให้เสน่ห์เหนือกาลเวลk งานบิ้วอินจึงเป็นมากกว่าการเลือกช่างหรือเลือกแบบ แต่คือการเลือกวัสดุให้สอดคล้องกับการใช้งาน สไตล์ และงบประมาณของบ้านคุณ

 

หากคุณกำลังมองหาทีมงานบิ้วอินที่แนะนำวัสดุในการสร้างและช่วยคำนวณงบประมาณได้ Mela Deco ยินดีให้บริการค่ะ หากสนใจสามารถดูคอลเลคชันของเราเพิ่มเติมได้ที่บทความ

 

บิ้วอิน Tokyo Veil Collection

 

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่

 

 

แชร์ข่าวนี้:

ข่าวอื่นๆ

3 โทนสีบิ้วอินที่ช่วยให้บ้านดูแพงขึ้นทันที Soft White, Greige และ Warm Earth พร้อมคำอธิบายจุดเด่น อารมณ์ของแต่ละโทน และไอเดียการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ
เจาะลึกวัสดุยอดนิยมในงานบิ้วอิน ทั้ง MDF, HMR, ไม้จริง และไม้อัด แนะนำวิธีเลือกให้เหมาะกับพื้นที่ใช้งาน สไตล์ และงบประมาณ ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
Tokyo Veil คือ ความอ่อนโยนใต้จังหวะเมืองใหญ่ เลเยอร์วัสดุที่นุ่มลึก และฟังก์ชันแบบเซนร่วมสมัย ทุกองค์ประกอบถูกออกแบบให้เรียบง่ายในทุกมุมของบ้าน
ทำไมงานบิ้วอินถึงช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากกว่าเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว? บทความนี้อธิบายเปิด 6 ข้อดีของการบิ้วอินคอนโด
เปลี่ยนห้องนอนของลูกให้กลายเป็นโลกแห่งความฝันด้วยงานบิ้วอินดีไซน์ละมุน สงบ และปลอดภัยที่ใส่ใจทุกฟังก์ชันและความรู้สึกของเด็กอย่างแท้จริง
รีโนเวทบิ้วอินเก่าต้องเริ่มจากอะไร? รวม 7 ขั้นตอนสำคัญที่ช่วยวางแผนงานรีโนเวทให้คุ้มค่า ลดปัญหาบานปลาย และได้ผลลัพธ์ที่สวยใช้งานได้จริง