การรีโนเวทบิ้วอินเก่าให้กลับมาสวย ทันสมัย และใช้งานได้ดีขึ้น เป็นสิ่งที่เจ้าของบ้านหลายคนอยากทำ แต่ก็มีคำถามสำคัญเสมอว่าต้องเริ่มจากตรงไหนก่อน? เพราะงานรีโนเวทไม่เหมือนงานทำใหม่ที่เริ่มจากศูนย์ แต่ต้องทำงานร่วมกับของเดิมบางส่วนเก็บได้บางส่วนต้องรื้อใหม่ ซึ่งถ้าวางแผนไม่ดี อาจบานปลายทั้งเรื่องงบและเวลาได้ง่ายมาก เพื่อช่วยให้การรีโนเวทของคุณเป็นเรื่องง่ายขึ้น Mela Deco เลยลิสต์ 7 ขั้นตอนสำคัญที่สุดที่ควรรู้ก่อนเริ่มงานจริงกันค่ะ

1. สำรวจสภาพบิ้วอินเดิมให้ละเอียดก่อน
เริ่มจากการเช็กสภาพบิ้วอินทั้งหมดในพื้นที่ว่ายังใช้ต่อได้ไหมหรือควรรื้อเพื่อทำใหม่ สิ่งที่ควรดูได้แก่ โครงสร้างไม้ยังแข็งแรงหรือเริ่มผุ มีปลวกหรือความชื้นไหม หน้าบานบวม ลอก หรือสีซีด ระบบไฟ ไฟซ่อนยังใช้งานได้หรือไม่ การสำรวจที่ดีทำให้รู้ทันทีว่าส่วนไหนซ่อมได้และส่วนไหนซ่อมไปก็ไม่คุ้ม หากไม่ชัวร์ สามารถให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจประเมินหน้างาน ซึ่งทีมของ Mela Deco ก็มีบริการลงพื้นที่ตรวจสอบแบบละเอียดก่อนเสนอแนวทางให้ด้วยเช่นกันค่ะ

2. ตั้งเป้าหมายการรีโนเวทให้ชัดเจน
ก่อนออกแบบหรือประเมินราคา ควรถามตัวเองก่อนว่าต้องการผลลัพธ์แบบไหน เช่น อยากเปลี่ยนสไตล์ห้องให้ทันสมัยขึ้น อยากเพิ่มพื้นที่เก็บของ อยากแก้ปัญหาการใช้งานเดิม อยากทำให้ห้องดูโล่ง มินิมอล หรือเรียบร้อยขึ้น หากรู้เป้าหมายชัดตั้งแต่แรก การออกแบบและคุมงบจะง่ายขึ้นมาก ช่วยสรุปความต้องการให้เป็นภาพรวม ทำให้เห็นชัดว่าควรแก้ตรงไหนและไม่ควรจ่ายเกินจำเป็นได้อีกด้วยค่ะ

3. วางงบประมาณตามความจำเป็นของงาน
งานรีโนเวทสามารถยืดหยุ่นงบได้ แต่ต้องรู้กรอบเบื้องต้น เช่น ถ้ารื้อทำใหม่ทั้งหมดอาจจะทำให้งบประมาณในการทำสูง ถ้าเปลี่ยนแค่หน้าบาน วัสดุปิดผิว งบจะอยู่กลาง ๆ แต่ถ้าซ่อมเฉพาะจุด งบประหยัด เพราะฉะนั้นงบประมาณจะขึ้นกับ ขนาดพื้นที่ , วัสดุและความซับซ้อนของดีไซน์ การให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินแบบละเอียดจะช่วยบอกได้ว่างบประมาณเท่านี้ ทำอะไรได้บ้าง

4. วัดพื้นที่จริงและเช็กข้อจำกัดหน้างาน
งานรีโนเวทต้องทำบนโครงสร้างเดิม ดังนั้นการวัดพื้นที่จริงจึงสำคัญมาก สิ่งที่ต้องเช็ก ได้แก่ ความกว้างยาวของผนังจุดปลั๊กไฟ สวิตช์ไฟ ตำแหน่งเสา คานที่อาจบังการติดตั้ง จุดที่ไม่สามารถรื้อหรือเจาะได้ ความสูงใต้ฝ้า ทีมงานมืออาชีพมักลงพื้นที่วัดทุกจุด เพื่อให้แบบที่ออกมาติดตั้งได้จริง ลดปัญหาแก้งานภายหลัง ซึ่ง Mela Deco ของเราก็มีการวำหน้างานก่อนทำงานจริงด้วยเช่นกันค่ะ

5. เลือกดีไซน์และวัสดุที่เหมาะกับการใช้งานระยะยาว
งานรีโนเวทที่ดีต้องสวยและใช้งานได้จริง ไม่ใช่แค่เปลี่ยนลุคเฉพาะหน้า ข้อควรคิด ได้แก่ เลือกโทนสีที่อยู่นาน เช่น สีไม้ธรรมชาติ เทา ขาว เบจ ใช้วัสดุทนรอย ทนน้ำตามพื้นที่ใช้งานออกแบบช่องเก็บของให้เข้ากับไลฟ์สไตล์จริง เพิ่มไฟซ่อนหรือระบบ soft-close เพื่อความทันสมัย ใช้ดีไซน์แบบมินิมอลเพื่อลดโอกาสตกยุค ผลงานจาก Mela Deco มีสไตล์เด่นคือ มินิมอล ฟังก์ชันครบ ซึ่งเหมาะมากกับงานรีโนเวทของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความคุ้มค่าในระยะยาวค่ะ

6. ตัดสินใจให้ชัดเจนว่าอะไรควรเก็บ และอะไรควรรื้อ
นี่คือหัวใจของการคุมงบงานรีโนเวท ส่วนที่มักเก็บได้ โครงไม้เดิมที่ยังแข็งแรง ระบบไฟบางจุดที่ไม่ต้องปรับ โครงตู้ที่เพียงเปลี่ยนหน้าบานก็เหมือนใหม่ ส่วนที่มักต้องรื้อ งานที่บวมจากความชื้นหรือปลวก บิ้วอินที่วางฟังก์ชันไม่ดีเกินแก้ วัสดุที่เสื่อมจนซ่อมไปก็ไม่ทน ผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ เช่น Mela Deco จะช่วยให้คำแนะนำว่าอะไรควรเก็บเพื่อลดงบและอะไรควรรื้อเพื่อคุณภาพงานในระยะยาว

7. เลือกผู้รับเหมาหรือทีมบิ้วอินที่เชี่ยวชาญงานรีโนเวท
งานรีโนเวทต้องละเอียดกว่างานใหม่ เพราะต้องทำงานบนของเดิม ดังนั้นผู้รับเหมาต้องมีประสบการณ์เฉพาะด้านจริง ๆ ควรเลือกทีมที่มีคุณสมบัติดังนี้ มีผลงานรีโนเวทให้ดูจริง มีอินทีเรียร่วมดูแลงาน ไม่ใช่แค่ช่างติดตั้ง สามารถเสนอแบบ 3D และ BOQ ชัดเจน บริหารงานเป็นระบบ รับประกันงานติดตั้ง ทีมบิ้วอิน Mela Deco ซึ่งมีทั้งอินทีเรียและช่างติดตั้งในทีมเดียวกัน จะช่วยให้งานจบสวย ไม่ต้องแก้หลายรอบ และลดปัญหาหน้างานที่พบได้บ่อยในการรีโนเวททั่วไป
สรุป
7 ขั้นตอนรีโนเวทบิ้วอินเก่าให้จบงานสวย คุ้มค่า ไม่บานปลาย สำรวจสภาพบิ้วอินเดิม ตั้งเป้าหมายงานรีโนเวทวางงบประมาณล่วงหน้า วัดพื้นที่จริงและเช็กข้อจำกัด เลือกดีไซน์และวัสดุให้เหมาะกับการใช้งาน แยกว่าอะไรควรเก็บ อะไรควรรื้อ เลือกทีมงานที่เชี่ยวชาญงานรีโนเวทโดยเฉพาะ หากต้องการผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยดูแลตั้งแต่ประเมินหน้างาน ออกแบบ จนถึงติดตั้งให้ครบในทีมเดียว ทีมอย่าง Mela Deco ก็เป็นตัวเลือกที่ช่วยให้การรีโนเวทของคุณง่ายขึ้น สวยขึ้น และคุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ
หากคุณกำลังมองหาทีมงานที่จะช่วยออกแบบภายในหรือรีโนเวทบ้านของคุณให้สวยและคงทนอยู่นาน Mela Deco ยินดีให้บริการนะคะ หากสนใจสามารถดูคอลเลคชันของเราเพิ่มเติมได้ที่บทความ

