Walk-in closet พื้นที่ในฝันของชาวแฟชั่นนิสต้า

Walk-in Closet คือ พื้นที่หรือห้องสำหรับเก็บเสื้อผ้า ของแต่งตัว และสิ่งของต่าง ๆ มีหลากหลายรูปแบบ หลายขนาด ซึ่ง Mela เชื่อว่ามันต้องเป็นพื้นที่หนึ่งในฝันของสาว ๆ และเหล่าแฟชั่นนิสต้าแน่นอน เพราะมันจะช่วยให้เรื่องการแต่งตัวของทุกคนเป็นกิจวัตรประจำวันที่ง่ายและราบรื่นกว่าที่เคย ยิ่งถ้าพื้นที่ถูกออกแบบให้ต่อเนื่องเชื่อมกับด้านหน้าห้องน้ำ และจัดวางฟังก์ชั่นให้เหมาะสมก็จะยิ่งทำให้มีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น พร้อมสำหรับความสนุกในการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้า และเครื่องประดับตามสไตล์ของตัวเอง ซึ่งวันนี้ Mela ขอนำไอเดียดี ๆ ในการทำ Walk-in Closet ให้เกิดประโยชน์สูงสุดมาฝากกันค่ะ

 

Walk-in closet คือห้องแต่งตัวประเภท Built-in ที่มีรูปแบบและขนาดที่หลากหลาย ที่ผู้อยู่อาศัยสามารถออกแบบได้อย่างอิสระ ซึ่งการที่เรามีพื้นที่เก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่นี้ อาจจะเป็นตัวช่วยให้บ้านในฝันมีความสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น เพราะจะทำให้คุณสนุกและเพลิดเพลินไปกับการมิกซ์แอนด์แมทช์เสื้อผ้า และเครื่องประดับได้ตามสไตล์ของตนเอง ด้วยการ Built-in พื้นที่ว่างในบ้านเป็นที่เก็บเสื้อผ้าขนาดใหญ่เพื่อเป็นห้องหนึ่งไปเลย และภายในตู้ยังได้รับการออกแบบให้สามารถจัดเก็บข้าวของได้อย่างเป็นระเบียบและเป็นหมวดหมู่ การทำ Walk-in closet จึงเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากความสวยงามแล้ว Walk-in closet จะช่วยให้คุณสามารถใช้งานพื้นที่ในบ้านได้อย่างมีประโยชน์และคุ้มค่ามากขึ้น ยังทำให้บ้านดูเรียบร้อยและเป็นสัดส่วนมากกว่าเดิม เพราะจะช่วยให้สามารถจัดเก็บเสื้อผ้าและเครื่องประดับได้อย่างเป็นระเบียบ ไม่มีแขวนหรือวางให้ระเกะระกะบริเวณรอบ ๆ บ้าน แถมยังสามารถออกแบบพื้นที่ Walk-in closet ได้แบบฟรีสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นราวแขวนเสื้อผ้า ลิ้นชักสำหรับเก็บเครื่องสำอางค์ ชั้นวางกระเป๋าสะพาย ตู้สำหรับเก็บรองเท้า หรือมุมเครื่องประดับชิ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่จัดให้อยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน

หากมีการจัดวางฟังก์ชันการใช้งานอย่างเหมาะสมก็ยังจะช่วยให้คุณสามารถเลือกและใช้สอยของทุกอย่างได้อย่างสะดวก ส่งผลให้การแต่งตัวของคุณง่ายและราบรื่นกว่าที่เคยเป็น อีกทั้งยังช่วยถนอมเครื่องแต่งกายให้อยู่ในสภาพใหม่อยู่เสมอด้วยการป้องกันฝุ่น แสงแดด และความชื้นไม่ให้ทำลายเนื้อผ้าและไอเทมชิ้นโปรดของคุณ

และแม้เราจะสามารถออกแบบ Walk-in closet ได้อย่างฟรีสไตล์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะจัดให้อะไรอยู่ตรงจุดไหนก็ได้ โดยหัวใจของการออกแบบ Walk-in closet ที่ดี มีดังนี้

1. พื้นที่ใช้งานแบ่งเป็นสัดส่วน ใช้สอยสะดวก

การออกแบบ Walk-in closet ต้องเข้าใจผู้ใช้งาน การออกแบบต้องมีการจัดเก็บให้เก็บสิ่งของต่าง ๆ ได้สะดวก มีความเป็นระเบียบ และปลอดภัย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ไม่ว่าจะเป็นราวแขวนผ้าที่ควรมีระดับแยกกันระหว่างเสื้อเชิ้ต เดรส กางเกง และกระโปรง มีลิ้นชักสำหรับจัดเก็บนาฬิกา เครื่องประดับ หรือชั้นสำหรับเนกไท ชุดชั้นใน ถุงเท้าอย่างเป็นหมวดหมู่ หรือแม้กระทั่งช่องลับไว้สำหรับเก็บของมีค่า เช่น เก็บเครื่องประดับที่มีมูลค่าสูง เป็นต้น โดยจะต้องออกแบบให้ผู้ใช้งานหยิบใช้สะดวกที่สุด

2. จัดวางมุมนี้ไว้ในพื้นที่โปร่ง โล่ง ไร้มุมอับ

Walk-in closet ส่วนใหญ่มักออกแบบให้อยู่เชื่อมต่อกับห้องน้ำ เพราะเป็นพื้นที่ใช้งานที่ต่อเนื่องกัน จึงต้องให้ความสำคัญกับระบบระบายอากาศและความชื้น ซึ่งทำได้โดยการเว้นระห่างระหว่างพื้นที่ทั้งสองอย่างน้อย 1.20 เมตรขึ้นไป เช่น การจัด Walk-in Closet สำหรับคู่สามีภรรยา ก็สามารถใช้ชั้นวางของแบบโปร่งคั่นตรงกลางห้องเพื่อแยกโซนได้ ทำให้ทั้งคู่มีมุมเก็บเสื้อผ้าและของใช้อย่างเป็นส่วนตัว หรือถ้าเป็นนักสะสมเครื่องประดับตัวยง ก็ลองหาโต๊ะลิ้นชักเป็นจุดกึ่งกลางห้อง แล้วแยกประเภทของจุกจิกให้เป็นหมวดหมู่ แบ่งใส่ลิ้นชักที่ด้านในกรุผ้ากำมะหยี่ก็ช่วยให้หยิบมามิกซ์แอนด์แมทช์ได้ง่าย แถมยังช่วยถนอมเครื่องประดับที่นำมาวางเก็บไว้ได้อีกด้วย

3. กระจกเงาบานใหญ่ ส่องความเรียบร้อย

กระจกเงาบานใหญ่แบบเต็มตัว ก็ถือเป็นหัวใจสำคัญของการแต่งตัวที่จะทำให้คุณเพลินเพลินไปกับแมทช์เสื้อผ้าในช่วงเวลาส่วนตัว อีกทั้งยังทำให้เราสามารถเช็คความเรียบร้อยของการแต่งตัวในแต่ละวันได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า และยังช่วยทำให้ห้องดูกว้าง และสว่างมากขึ้น โดยอาจเพิ่มโซฟาหรืออาร์มแชร์ที่นั่งสบาย ๆ สักตัวเพื่อไว้รองรับเวลาลองชุด สวมถุงเท้าหรือรองเท้า รวมทั้งสำหรับนั่งแต่งหน้า

อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบันนี้เฟอร์นิเจอร์แบบ Fit-in ก็มีดีไซน์ที่สวยงามและใช้วัสดุคุณภาพดีได้มาตรฐานไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์ Build-In โดยมีสิ่งสำคัญคือการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์จากร้านค้า แบรนด์ หรือบริษัทที่เชื่อถือได้ เพื่อให้มั่นใจว่าเฟอร์นิเจอร์ของเราจะใช้งานได้ดีและอยู่คู่กับบ้านเราไปอีกนานนั่นเองค่ะ

4. ระบบแสงสว่างที่เหมาะสม

ภายใน Walk-in closet ควรมีระบบแสงสว่างอย่างเพียงพอทั้งบริเวณกระจก โต๊ะเครื่องแป้ง หรือตามตู้หรือชั้นเก็บของต่าง ๆ ซึ่งจะช่วยให้เรามองเห็นและเลือกสวมใส่เสื้อผ้าหรือเครื่องประดับได้อย่างชัดเจนและง่ายต่อการแต่งตัว หากเป็นไปได้ ควรมีแสงธรรมชาติส่องถึงด้วยเช่นกัน เพราะแสงธรรมชาติคือแสงที่ดีที่สุดที่ทำให้ตามองเห็นค่าสีที่ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด โดยเฉพาะสาว ๆ ที่ต้องแต่งหน้า แสงธรรมชาติจะช่วยให้โทนสีบนใบหน้าดูเป็นธรรมชาติ ไม่หลอกตา

5. ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้ใช้งาน

แน่นอนว่า Walk-in closet จะต้องมาพร้อมกับการออกแบบที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นความสูงของราวแขวน ระยะการใช้งานของส่วนต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ต้องสามารถเอื้อมหยิบได้สบาย ๆ หากเป็นการออกแบบ Walk-in closet สำหรับการใช้งานที่มากกว่า 1 คนขึ้นไป ก็ควรต้องแบ่งโซนพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วนเพื่อให้ยังคงหยิบใช้ได้ง่าย เป็นส่วนตัว ไม่ปะปนกัน และที่สำคัญ Walk-in closet จะต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถสะท้อนความชอบและรสนิยมของเจ้าของได้อย่างชัดเจน

เพื่อน ๆ คนไหนที่กำลังสนใจอยากออกแบบพื้นที่ไว้สำหรับทำ Walk-in closet ลองทักหา Mela Deco ได้เลยน๊า ทีมงานพร้อมให้บริการสุด ๆ เลยค่ะ

Website :: https://meladeco.com/
Official Instagram :: https://www.instagram.com/meladecoth/
Line Official :: @meladeco
Official Fanpage ::
https://www.facebook.com/MelaDecoTH

 

More from Mela Deco

Earl Grey Veil ความสงบที่ซ่อนพลัง ผ่านโทนสีเทาอ่อน ครีม และน้ำตาลธรรมชาติ ผสานแสงทองละมุนอย่างประณีต เพื่อสร้างพื้นที่พักใจที่ทั้งละมุน ลุ่มลึก
Hojicha Reverence เสน่ห์ของความอบอุ่นผ่านโทนสีที่ผ่านการคั่ว พื้นผิวธรรมชาติ และจังหวะแสงที่ทำให้ทุกห้องกลายเป็นพื้นที่พักใจ เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง
โทนสีของงานบิ้วอินส่งผลต่ออารมณ์เจ้าของบ้านอย่างไร? รู้จักจิตวิทยาของสีและวิธีเลือกโทนให้บ้านสวย น่าอยู่ และรู้สึกสบายใจทุกวัน
Rose Latte Serenity การออกแบบบิ้วอินที่ถ่ายทอดความหรูหราอย่างอ่อนโยน ผสานโทน Rosé Beige และแสงละมุน สะท้อนความสงบและอบอุ่นในทุกมุมของบ้าน
รู้ไหมว่าในการทำบิ้วอินบ้าน ไม่ได้มีแค่ช่างอย่างเดียว แต่ยังต้องมีอินทีเรียช่วยออกแบบด้วย! ทำความเข้าใจหน้าที่ของช่างบิ้วอินและอินทีเรียได้ที่นี่!
บิ้วอินช่วยสร้างบรรยากาศและอารมณ์ในบ้านอย่างไร? รู้จักผลทางจิตวิทยาของงานบิ้วอิน ที่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขมากขึ้น